หัว

วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

9 ฟีเจอร์(error) ที่ผู้ใช้รายงานบน iPhone 5

บาง ขึ้น ,ยาวขึ้น ,รองรับ 4G LTE มากับงานวิดีโอเอชดี และชิพ Apple A6 หากคิดว่าฟีเจอร์ของไอโฟน 5 มาเพียงเท่านี้ คุณอาจจะเก็บรายละเอียดไม่หมด ลองชมฟีเจอร์(error) จากประสบการณ์ตรงผู้ใช้ ที่เจอในไอโฟน 5 แล้วคุณอาจจะอยากดองโปรเจ็กส์ ของขวัญสิ้นปีเป็น iPhone 5 แด่คนที่ฉันรัก ออกไปก่อน…ยาวๆ เลย!!

9 Feature (error) with iPhone 5


Apple Maps ปัญหาที่กำลังถูกโจมตีอย่างหนัก กระทั่งสาวกก็ทำใจศรัทธากับมันไม่ไหว
ปัญหาบางและเบาเกินไป ใช่แล้วคุณอ่านไม่ผิด แอปเปิลพรีเซ้นต์ความบางและเบา
แต่ผู้ใช้หลายคนบ่นเสียงแน่นเลยว่า มันเบาและบางเกินไป เหมือนจะบินหลุดไปจากมือ?
Siri รีเทริน์ สิริที่แอปเปิลพรีเซ้นต์ว่าเมก้าเครฟเวอร์ขึ้นแล้ว หลังพาไปอัพโอเมก้า 3 มา ในความเป็นจริงมันยังคงป่วยอยู่ หลังรายงานสภาพอากาศของของนิวยอร์กซิตี้ เป็นอุณหภูมิที่รัฐจอร์เจียแทน
ปัญหา แบตเตอรี่ได้กลับมาอีกครั้งบนนัมเบอร์ไฟว์ ผู้ใช้ยังคงต้องรับมือการชาร์ตที่เต็มไปแล้ว แต่เหลือเพียง 40 % ภายในชั่วโมงเดียว ขณะที่วันพรีเซ้นต์ 9 .12.12 อุตส่าห์เคลมสื่อว่าสแตนบายนาน 225 ช.ม. ปัญหานี้เกิดขึ้นบน iOS 6 .

บางส่วนของผู้ใช้ไอโฟน 5 สีขาว มากกว่าสีดำ
พบการรั่วของแสงที่หน้าจอ และจะยิ่งชัดเจนเมื่ออยู่ในห้องมืด

หยุดความคิดที่ว่าบอดี้ไอโฟน 5 จะ ถึก อึด ทน ไว้ก่อน เพราะความบางขั้นกว่าที่ได้มานั้น
ต้องแลกมากับวัสดุที่บอบบาง บอดี้ด้านหลังมันจึงเป็นรอยขีดข่วนได้อย่างง่ายดาย

น่าตกใจสำหรับปัญหานี้ เพราะดูเหมือนว่างานประกอบของไอโฟน 5 จะหละหลวมอยู่บ้าง? สัมผัสได้จากการเขย่า คุณจะได้ยินเสียงเคลื่อนของอะไหล่ด้านใน


อีกครั้งกับปัญหา Wi-Fi ต่อไม่ได้ ที่เคยเกิดขึ้นบน iPhone 4/4S มันกลับมาบนไอโฟน 5 อีกครั้ง
No SIM Card Installed’ Error นาโนซิมไม่ช่วยอะไร? เมื่อพบปัญหานี้ ให้คุณแก้ด้วยการรีสตาร์ทเครื่อง หากยังไม่หายก็เก็บแรงไปเขวี้ยงใส่หน้าพนักงานที่ Apple Store ใกล้บ้าน!!
Source By huffingtonpost
ที่มา: IT PLAZA







Samsung Galaxy Note II เคาะราคาในไทยแล้ว 22,900 บาท เริ่มขาย 4 ตุลาคมนี้

หลังจากเปิดตัว Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy Note 2) อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา ล่าสุด Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy Note 2) ก็ได้ฤกษ์วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว โดยจะเปิดตัวครั้งแรก ในงาน Thailand Mobile Expo 2012 Showcase ในวันที่ 4-7 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
โดยเคาะราคาไว้ที่เครื่องละ 22,900 บาท มีให้เลือก 2 สีคือ สีขาว Marble White และ สีเทา Titanium Grey นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษมากมาย จากผู้ให้บริการเครือข่ายในไทย ทั้ง Dtac, AIS และ TrueMove H อีกด้วยครับ สนใจแวะไปชม Samsung Galaxy Note II ในงาน Thailand Mobile Expo 2012 Showcase ในวันที่ 4-7 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
สเปค Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy Note 2) มีดังนี้
- หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แบบ HD Super AMOLED display ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (Samsung Galaxy Note รุ่นแรก ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล)
- ระบบประมวลผลแบบ Quad-core Processor ชิปเซ็ท Exynos 4 Quad ความเร็ว 1.6GHz ซึ่งถือว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่เร็วและแรงที่สุดในขณะนี้
- RAM ขนาด 2GB
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB, 32GB และ 64GB
- รองรับเครือข่าย 4G LTE
- ตัวเครื่องหนา 9.4 มิลลิเมตร (Samsung Galaxy Note รุ่นแรกหนา 9.65 มิลลิเมตร)
- น้ำหนัก 180 กรัม
- แบตเตอรี่ความจุ 3100 mAh
- รันระบบปฏิบัติการ Android 4.1 Jelly Bean

จาก techmoblong.com


วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

วิธีการลบข้อมูลตำแหน่ง Location ที่เคยทวิตไว้แล้ว ออกจาก twitter

ระหว่างที่คุณกำลังเดินทางไปกินข้าวไปและทวิตเตอร์ไป บางครั้ง twitter ก็จะใส่ข้อมูล Location ระบุตำแหน่งพี่กัดไว้ด้วย ว่าตอนนั้นคุณอยู่ที่ไหน เพราะบางแอพพิเคชั่นอื่นๆที่ไม่ใช่ twitter จะทำงานใส่พิกัดตำแหน่งที่คุณอยู่ลงไปในข้อความ twitter ด้วย ซึ่งมันจะมีโอกาสที่ข้อมูลส่วนตัวหลุดออกมา โดยเฉพาะตามบ้านของคุณ หรือบ้านเพื่อนคนอื่นๆด้วย
ถ้าคุณต้องการแบบส่วนตัวจริงๆคุณอาจเลือกลบข้อความทวิตเตอร์ทั้งหมดของคุณก็ได้ แต่เราจะไม่ให้คุณทำเช่นนั้น เราจะเหลือแค่ข้อความที่คุณเคยทวิตไว้ แต่จะลบ Location ตำแหน่งต่างๆที่ระบุใส่ใน twitter ออกทั้งหมด เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ของคุณได้มากขึ้น


เริ่มจากเข้าไปที่เว็บไซต์ twitter.com ผ่านทางเว็บบราวเซอร์ แล้วทำการ Sign In เข้าสู่ระบบ ด้วยชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่านของคุณ
จากนั้นคลิกที่รูปคนบริเวณขวาบนดังรูป แล้วเลือกที่ Settings เพื่อเข้าสู่หน้าการตั้งค่าบัญชีของเรา
แล้วให้ไปดูบริเวณ โซน tweet Location (ตรงกรอบสีฟ้าๆ นี้ )
จะพบว่ามี ช่อง Add Location My Tweet ซึ่งหากติ๊กเครื่องหมายถูกไว้ แอพ twitter หรือเว็บไซต์ twitter จะสามารถระบุใส่ Location ที่คุณยืนอยู่ได้ ดังนั้นขอแนะนำ เอาเครื่องหมายถูกออก จากช่อง Add Location My Tweet ไว้ดังตัวอย่างรูปนี้ และหากต้องการลบข้อมูล Location ทั้งหมดที่คุณเคยทวิตไว้ ก็คลิกที่ Delete all location information. เพียงเท่านี้ข้อมูลตำแหน่งพิกัดที่เคยระบุไว้บน twitter จะถูกลบทั้งหมด โดยหากคุณทวิตไว้เยอะ จะใช้เวลาในการลบ Location ทั้งหมด ประมาณ 30 นาที ซึ่งในระหว่างขึ้นข้อความรอ 30 นาที คุณสามารถไปดูส่วนอื่นๆของ twitter หรือ เข้าเว็บไซต์อื่นได้

****************************************************



วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ซัมซุง สมาร์ทโฟน ฉลุย ยอดขายกินขาดไอโฟน


ประชาชาติธุรกิจออนไลน์คอลัมน์ IT. Talentz โดย Siripong@kidtalentz.comคู่ต่อกรที่แท้จริงในตลาดสมาร์ทโฟน ถึงที่สุดแล้ว ตอนนี้มีกันอยู่เพียงแค่ 2 บริษัทนั่นคือซัมซุงกับแอปเปิล ขณะที่ซัมซุงมีแกแล็กซี่ แอปเปิลก็มีไอโฟน 2 บริษัทนี้ใช้วิธีการที่แตกต่างกัน โดยซัมซุงผลิตสมาร์ทเข้าถึงทุกเซ็กเมนต์ของตลาด มีความหลากหลาย ทั้งราคา ขนาดจอ และดีไซน์ ส่วนแอปเปิลจับเฉพาะตลาดบน แต่ทั้ง 2 บริษัทก็ประสบความสำเร็จและขับเคี่ยวกันมาตลอดเมื่อเร็ว ๆ นี้ไอดีซีสรุปยอดขายสมาร์ทโฟนไตรมาส 2 ของปีนี้ออกมา ปรากฏว่ายอดขาย Galaxy S III ซึ่งเป็นตัวล่าสุดของซัมซุงแซงหน้าไอโฟนไปมากกว่าครึ่ง หากรวมแกแล็กซี่ โน้ต ซึ่งเป็นไฮบริด
หรือลูกผสมระหว่างสมาร์ทโฟนและแท็บเลตเข้าไปด้วย ไตรมาส 2 มียอดขายถึง 50.2 ล้านเครื่อง ถือเป็นการทำลายสถิติที่เคยปรากฏมาในแง่การเติบโตแล้วสูงถึง 172 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว และส่วนแบ่งตลาดขยับขึ้นมาที่ 17 เปอร์เซ็นต์ เบียดกับไอโฟนที่ครองอันดับหนึ่ง 18.8 เปอร์เซ็นต์ไตรมาส 3 เชื่อว่าซัมซุงก็ยังจะทำยอดขายได้ดี จนกว่าไอโฟนใหม่ของแอปเปิลจะออกมา ซึ่งตามข่าวดูเหมือนว่าจะออกราว ๆ ไตรมาส 4 ทำให้มีเวลาเหลือเฟือที่ทำซัมซุงกวาดยอดขายมาได้อีกเป็นธรรมชาติของตลาดที่จะตอบสนองเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ของผลิตภัณฑ์ที่ออกมาค่อนข้างดี เว้นแต่มีเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ตลาดผิดหวัง ผลก็จะไม่เป็นไปตามธรรมชาติปกติสำหรับซัมซุงแล้วธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นเป็นธุรกิจสำคัญที่ทำกำไรให้บริษัทเกินกว่าครึ่งของกำไรทั้งหมด และปัจจุบันซัมซุงก็กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดของโลกไปแล้ว โดยแซงหน้าโนเกียที่เป็นแชมป์เก่ามายาวนานลงไปได้ โดยมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 คือ 25.7 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือโนเกีย 23.1 และอันดับ 3 ได้แก่แอปเปิล 7.2 เปอร์เซ็นต์จากผลประกอบการไตรมาส 2 ที่รายงานออกมาซัมซุงกำไรสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 5,900 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 79% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในจำนวนนี้มากถึง 60 เปอร์เซ็นต์มาจากธุรกิจสมาร์ทโฟนการขับเคี่ยวกันในตลาดสมาร์ทโฟนจึงดุเดือดเป็นพิเศษระหว่างยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 เจ้าเจ้าอื่น ๆ ลดสถานะลงเหลือเพียงเป็นไม้ประดับในตลาด******************************************************************************

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

กูเกิ้ลให้ใช้ลายมือแทนพิมพ์ด้วยคีย์บอร์ด

ผู้ใช้ Google บนอุปกรณ์โมบาย จะได้รับความสะดวกในการใช้งานยิ่งขึ้น เพราะเพียงแค่แตะปุ่มคำสั่งใหม่ที่ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถป้อนคำค้นด้วยการเขียนด้วย "ลายมือ" ของตนเอง (ใช้สไตลัส หรือนิ้วก็ได้)แทนการพิมพ์ หรือสั่งด้วยเสียง ข้อมูลจากบล็อกของกูเกิ้ลระบุว่า การที่ผู้ใช้สามารถเขียนคำค้นที่ต้องการบนบริเวณไหนบนหน้าจอก็ได้เป็นเรื่องที่เยี่ยมมาก เนื่องจากไม่ต้องเสียพื้นที่ให้คีย์บอร์ดขึ้นมากินพื้นที่บนหน้าจอถึงครึ่งหนึ่ง และไม่ต้องคอยมองหาปุ่มที่ต้องการพิมพ์ อีกทั้งยังสะดวกกว่าการพิมพ์ในเวลาที่อยู่ในสถานที่ไม่เอื้ออำนวยให้พิมพ์ได้โดยง่าย แต่ด้วย Handwrite คุณสามารถใช้นิ้วเขียนคำค้นด้วยลายมือของคุณขึ้นไปบนหน้าจอได้เต็มๆ ช่างสะดวกง่ายดายจริงๆ 
Handwrite มีความฉลาดในการแยกตัวอักษรจากคำที่เขียนในแบบตัวอักษรลากต่อเนื่องกันไป เพื่อวิเคราะห์ว่ามันหมายถึงคำว่าอะไรได้อีกด้วย แทนทีผู้ใช้จะต้องยกมือเขียนทีละตัวอักษร

อย่างไรก็ตาม Handwrite คงไม่สามารถเข้ามาแทนที่การป้อนคำค้นด้วยคีย์บอร์ด หรือเสียง และมันคงไม่เหมาะกับทุกคน แต่มันเป็นลูกเล่นที่เพิ่มเข้ามาเท่านั้น เพราะคุณยังต้องแตะปุ่ม เพื่อวรรค และลบอยู่ดี

สำหรับคุณ ที่สนใจอยากลองใช้ฟีเจอร์นี้ ให้ใช้อุปกรณ์โมบายเปิดบราวเซอร์แล้วคลิกเข้าไปที่ Google.com จากนั้นแตะปุ่ม Settings ที่ด้านล่าง เลือก Handwrite คลิก Save ที่ด้านล่างของหน้าเว็บ เพียงแค่นี้ก็สามารถใช้ฟังก์ชัน Handwrite ได้แล้ว เวลาใช้ให้แตะที่ตัวอักษร g ที่มุมล่างขวา ลองใช้ดูนะครับ อ้อ...เกือบลืมไป สำหรับสมาร์ทโฟนที่จะใช้ฟังก์ชันนี้ได้ต้องทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 5 หรือ Android 2.3 ขึ้นไป ส่วนแท็บเล็ตจะต้องเป็น iOS 5 หรือ Android 4.0 ICS


************************************************************************

วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

รู้จักกับการจำกัดความเร็วในการใช้งาน 3G (Fair Usage Policy) มีไว้เพื่ออะไร และผู้ใช้ได้อะไร

เป็นประเด็นที่หลายๆคนพูดถึงกับ Fair Usage Policy (FUP) หรือการจำกัดความเร็วในการใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในการเชื่อมต่อดาต้าเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต เมื่อครบปริมาณการใช้งานที่กำหนดไว้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับการจำกัดปริมาณการใช้งานอย่างเหมาะสม Fair Usage Policy กันทำไมต้องมีการกำหนด Fair Usage Policy
สมาร์ทโฟน (iPhone, BlackBerry, Android) / แท็ปเล็ต (iPad, Android Tablet) และ USB AirCard (รวมไปถึง Mi-Fi) โดยการพิจารณาแพ็คเกจเพื่อใช้ในการใช้งาน 3G นั้น ควรจะเลือกให้เหมาะสมกับอุปกรณ์และพฤติกรรมในการใช้งานของเรา เช่น สมาร์ทโฟน สามารถเลือกใช้แพ็คเกจเพื่อใช้งานในปริมาณการรับส่งข้อมูล 1 – 2 GB ต่อเดือน (ถ้าไม่นำไปเชื่อมต่อเป็น Personal HotSpot ปล่อยสัญญาณให้กับคอมพิวเตอร์หรือแท็ปเล็ต) แต่หากต้องการใช้สมาร์ทโฟนแชร์สัญญาณ Wi-Fi หรือใช้แอร์การ์ด, Mi-Fi เพื่อเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ หรือแท็ปเล็ต ควรจะเลือกโปรโมชั่นที่ใช้งานได้ปริมาณ 3 – 5GB ต่อเดือน เพราะใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อรับส่งข้อมูลในปริมาณที่มาก และในบางแพ็คเกจที่แถมพ่วงการใช้งาน Wi-Fi ฟรีเข้าไปด้วย ก็ลองสลับมาใช้ Wi-Fi แทน รับรองว่า ไม่เกินกำหนดตามเงื่อนไข Fair Usage Policy แน่นอน (ถ้าเลือกแพ็คเกจให้เหมาะสม) ลองดูตารางจาก i-mobile 3GXเมื่อก่อนในสมัยที่เรายังใช้ GPRS/EDGE เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต สมัยนั้นเรายังใช้งานในปริมาณข้อมูลที่น้อย เนื่องจากการใช้งานบนความเร็วที่ไม่มากนัก บรรดาเว็บไซต์ต่างๆ ยังไม่ได้เป็น Social Network แบบทุกวันนี้ ใช้งานแค่เช็คข้อความอีเมล์พร้อมภาพไม่กี่ภาพ หรือดู Wap Site ช่วงนั้นเรายังใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบรายคิดเป็นเวลา (รายชั่วโมง) โดยนับเป็นนาที เช่นเดียวกับการคิดค่าบริการอินเทอร์เน็ตผ่านโมเด็ม 56K แบบหมุนโทรศัพท์ แต่เมื่อมีการให้บริการ 3G แบบทดลองใช้ และแบบหยวนๆใช้ (คือยังไม่ได้มีการประมูลใบอนุญาต โดยค่ายผู้ให้บริการนำคลื่นเดิมมาให้บริการ 3G) ค่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ จึงได้กำหนด Fair Usage Policy เพื่อกำหนดเงื่อนไขในการใช้งานดาต้าผ่านเครือข่าย 3G ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเพื่อการใช้งานอย่างเหมาะสม โดยกำหนดสิทธิ์ในการใช้งานตามปริมาณการรับส่งข้อมูล หากใช้งานครบตามปริมาณการใช้งานที่กำหนดแล้ว ก็ยังสามารถใช้งาน 3G ได้ โดยไม่เสียค่าบริการเพิ่มเติม เพียงแต่ถูกปรับลดความเร็วลง ทำให้เราไม่ได้ใช้ความเร็วสูงสุดตามที่เครือข่ายและตัวเครื่องรองรับเหตุผลที่ค่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือต้องกำหนดเงื่อนไข Fair Usage Policy ขึ้น เนื่องจากมีลูกค้านำระบบ 3G แบบไม่จำกัด (Unlimited) ไปเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยนำไปใช้งานที่ไม่เหมาะสมและผิดวัตถุประสงค์ เช่นการดาวน์โหลด Bittorrent ซึ่งมีการรับส่งข้อมูลในปริมาณมาก (เหมาะกับการใช้งานบนบรอดแบนด์หรือ ADSL มากกว่า) เมื่อมีการนำไปใช้งานในลักษณะนี้ ซึ่งกระทบต่อการใช้งานโดยรวม ส่งผลให้ผู้ใช้งานคนอื่นๆ ใช้งานได้ช้าเพราะถูกแย่งแบนด์วิธ จึงจำเป็นต้องมีการกำหนดเงื่อนไขข้อจำกัดเพื่อให้เครือข่ายโดยรวม สามารถให้บริการลูกค้าทุกคนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพใครบ้างที่ต้องเผชิญกับการถูกจำกัดการใช้งานตามเงื่อนไข Fair Usage Policyไม่ใช่ว่าผู้ใช้บริการทุกคนจะถูกจำกัดสิทธิ์ในการใช้งานจากผู้ให้บริการด้วยเงื่อนไข Fair Usage Policy อย่างไม่มีทางเลือก เพราะการจำหน่ายแพ็คเกจ 3G ในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ซึ่งถือว่า ผู้ใช้ยอมรับการสมัครใช้งานแพ็คเกจ โดยมีการศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบแล้ว

แบบแรกคือ แพ็คเกจที่ให้บริการโดยนำเสนอปริมาณการใช้งานเบื้องต้น ยกตัวอย่างแพ็คเกจของ 12Call แบบเติมเงิน สามารถใช้งาน 3G ได้ 200MB ต่อเดือน หากใช้งานครบ 200MB ส่วนที่ใช้เกินจะไม่ถูกจำกัดความเร็ว (ไม่ถูกจำกัด Fair Usage Policy) แต่จะต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติมในอัตราที่กำหนด แบบนี้ผู้ใช้จะต้องศึกษาและเข้าใจการบริหารการใช้ 3G อย่างรอบคอบ และรู้วิธีปิด 3G ป้องกันเน็ตรั่ว เพื่อไม่ให้มีค่าใช้จ่ายบานปลาย เรามักจะเห็นในแพ็คเกจแบบเติมเงินมากกว่าแบบรายเดือนแบบที่ 2 ตัวอย่างแพ็คเกจ TruemoveH แบบรายเดือน หากเป็นแพ็คเกจต่ำๆ อย่าง Net 150, 350, 650 จะใช้งานได้ตามปริมาณการใช้งานที่กำหนด เมื่อใช้งานครบตามปริมาณการใช้งานที่กำหนดแล้ว จะต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติมในส่วนที่เกินเม็กกะไบต์ละ 2 บาท โดยไม่ถูกจำกัด Fair Usage Policy แต่หากเป็นแพ็คเกจสูงๆ อย่าง Net 799, Net 899, Net 1699 หากใช้ครบตามปริมาณการใช้งานที่กำหนดก็สามารถใช้งานต่อไปได้โดยไม่เสียค่าบริการเพิ่มเติม แต่จะถูกปรับลดความเร็วในการใช้งานลงเหลือ 128Kbps แบบนี้เรียกว่า ถูกจำกัดความเร็วในการใช้งานตามเงื่อนไข Fair Usage Policy
แบบที่ 3 ก็คือ การจำหน่ายแพ็คเกจเป็นเม็กกะไบต์ ตามปริมาณการใช้งาน อย่างเช่น i-mobile 3GX แบบรายเดือน ที่คิดค่าบริการเป็นเม็กกะไบต์ ใช้งานเท่าไหรก็เหมาจ่ายเท่านั้น ไม่มีการกำหนด Fair Usage Policy ใช้ครบตามปริมาณที่กำหนดก็ซื้อเพิ่ม แบบนี้ก็แฟร์ดีไม่ถูกจำกัดลดความเร็วลงพฤติกรรมผู้ใช้เปลี่ยนไป การกำหนด Fair Usage Policy ก็ต้องเป็นธรรมเนื่องด้วยพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์พกพา (แท็ปเล็ต) และอุปกรณ์เชื่อมต่อ 3G อย่างแอร์การ์ด และ Mi-Fi (Personal Mobile HotSpot) ทำให้แต่ละผู้ให้บริการต้องกำหนด Fair Usage Policy ไว้ เพื่อป้องกันการนำไปใช้ผิดประเภท โดยแบ่งเป็นจากตารางข้างต้น พอจะทราบได้คร่าวๆจากพฤติกรรมการใช้งานของเรา บางคนชอบฟังเพลง บางคนชอบดู Youtube บางคนชอบอ่านข้อความ บางคนติด Social Network เราก็เลือกแพ็คเกจให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานของเรา หากเลือกอย่างเหมาะสมกับการใช้งานจริงๆ รับรองไม่ติด Fair Usage Policy ให้ช้าไม่ทันใจแน่ เพราะเราเลือกบริหารการใช้งาน 3G อย่างคุ้มค่า ใครชอบ Youtube ชอบดาวน์โหลด ก็ใช้ Wi-Fi บ้าน ออฟฟิศ ช่วยประหยัด 3G ได้มากเลือกแพ็คเกจไหนดี Data Calculator ช่วยได้เราจะรู้ได้อย่างไรว่า พฤติกรรมการใช้งานของเรา ควรจะเลือกแพ็คเกจไหนถึงจะเหมาะสม และไม่ใช้เกินปริมาณการใช้งานจนถูกจำกัด Fair Usage Policy ผู้ให้บริการแต่ละค่ายนำเสนอเครื่องมือตรวจสอบคือ Data Calculator จาก AIS dtac TruemoveH ซึ่งทุกค่ายจะแบ่งการใช้งานตามอุปกรณ์ออกเป็น SmartPhone อย่าง iPhone, BlackBerry, Android, WindowsPhone / iPad, Tablet / Laptop ใช้กับแอร์การ์ด หรือ Mi-Fi ถ้าดูจากภาพประกอบด้านบน คงจะเห็นได้ชัดว่า โน้ตบุ๊กหรือแล็ปท็อป ใช้ปริมาณการรับส่งข้อมูลมากที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าทุกอุปกรณ์จะใช้ความเร็ว 3G ได้เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการรองรับของอุปกรณ์ อย่างเช่น The New iPad รองรับการดาวน์โหลดสูงสุด 42Mbpsสลับใช้ Wi-Fi บ้าง ทางเลือกในการใช้งาน 3G อย่างประหยัด (ปริมาณการใช้งาน)ตอนนี้ พฤติกรรมในการใช้งานอุปกรณ์พกพา สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต แอร์การ์ด ของคนไทยเปลี่ยนไป หากอยู่บ้าน หรือออฟฟิศ ก็ใช้ Wi-Fi เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ แท็ปเล็ต สมาร์ทโฟน หากออกมานอกสถานที่ก็ใช้ 3G หรือเดินเข้าห้างก็มีบริการ Wi-Fi ให้ใช้ หรือมีบริการ Wi-Fi ฟรีทั่วกรุง ดังนั้น ผู้ใช้สามารถบริหารการใช้งาน 3G ไม่ให้เกินลิมิตจากปริมาณการใช้งานที่กำหนดไว้ได้ หรือหากใช้งานเกินปริมาณที่กำหนดไว้ ก็พยายามปรับไปใช้ Wi-Fi แทน ก็จะไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่จะต้องรู้วิธีปิด 3G เพื่อป้องกันเน็ตรั่วด้วย เพราะส่วนใหญ่ที่เกินกำหนด Fair Usage Policy คือนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เช่น ให้แพ็คเกจต่ำสุด แต่นำไปกระจายสัญญาณ Wi-Fi HotSpot ให้คอมพิวเตอร์และแท็ปเล็ต เป็นต้นความเป็นธรรมของการกำหนดเงื่อนไขจำกัดปริมาณการใช้งาน Fair Usage Policyผู้ใช้หลายคนออกมาร้องเรียนว่า ผู้ให้บริการไม่เป็นธรรมในการจำกัดสิทธิ์ในการใช้งานโดยอ้างเงื่อนไข Fair Usage Policy ส่วนฝั่งผู้ให้บริการก็มีข้อกำหนดเพื่อไม่ให้เครือข่ายโดยรวมถูกดึงแบนด์วิธจากการนำไปใช้งานที่ไม่เหมาะสม ทางผู้ใช้ก็ออกมาแสดงความเห็นว่า การกำหนดเงื่อนไขของ Fair Usage Policy ในบางแพ็คเกจ กดความเร็วต่ำจนเกินไป บางแพ็คเก็จลดความเร็วลงเหลือ 64Kbps ซึ่งความเร็ว EDGE ยังเร็วกว่า หรือบางแพ็คเกจลดความเร็วเหลือ 128Kbps ก็ยังพอรับไหว บางแพ็คเก็จก็ลดเหลือ 256Kbps แต่ก็ยังถือว่าช้าเกินไปอยู่ดี แต่สำหรับผู้ใช้บางรายที่สมัครแพ็คเกจแท็ปเล็ต มักจะถูกจำกัดความเร็วเหลือ 384Kbps ซึ่งเป็นความเร็วในระดับ 3G ที่พอจะยอมรับได้ ถามว่าความเหมาะสมอยู่ที่ตรงไหน เพราะผู้ใช้ก็มองว่า ผู้ให้บริการเอาเปรียบโดยเหมือนบังคับให้ใช้แพ็คเกจสูงกลายๆ ต้องจ่ายเดือนละเกือบพันเพื่อให้สามารถใช้งานได้ปริมาณมากๆ หลังจากนั้นถูกลดความเร็วลง ถามว่า จะบริหารอย่างไรให้ไม่เกินจากปริมาณการใช้งานที่กำหนด อาจต้องสลับไปใช้ Wi-Fi บ้าง หรือขณะดู Youtube หรือดาวน์โหลดไฟล์ก็ใช้ Wi-Fi แทนก็เป็นทางเลือกที่ช่วยได้ถ้าไม่อยากถูกจำกัดด้วย Fair Usage Policy ล่ะ?ค่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ๆ AIS, Dtac, TruemoveH นั้นนำเสนอทั้ังแพ็คเกจที่ไม่ถูกจำกัดความเร็วในการใช้งาน หากใช้งานเกินจากที่กำหนดก็มีค่าบริการเพิ่มเติม กับแพ็คเกจ Unlimited ที่ใช้งานได้ไม่จำกัด แต่หากใช้ครบตามปริมาณที่กำหนดก็ปรับลดความเร็วลง โดยไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม และทางเลือกสำหรับแพ็คเกจของ MVNO จาก TOT อย่าง i-mobile 3GX, iFox ซึ่งจำหน่ายแพ็คเกจเป็นเม็กกะไบต์ (1024 MegaBye = 1GigayByte) โดยไม่มีการจำกัดปริมาณการใช้งาน Fair Usage Policy แต่จะขายเป็นเม็กกะไบต์ เช่น เหมาจ่าย 399 บาท ใช้งานได้ 2500MB หรือประมาณ 2.5GB หากใช้ครบก็ตัดการเชื่อมต่อ จ่ายเงินซื้อเม็กใหม่ ถ้าเป็นแบบนี้เราจะต้องหมั่นตรวจสอบปริมาณการใช้บริการเป็นประจำสรุปการจำกัด Fair Usage Policy นั้น เป็นข้อจำกัดที่เป็นเงื่อนไขของผู้ให้บริการแต่ละรายที่กำหนดการใช้งานตามความเหมาะสม เพื่อการใช้งานโดยรวม แต่ผู้ใช้เองก็ควรจะเลือกแพ็คเกจให้เหมาะสมและนำอุปกรณ์มาใช้งาน 3G ให้เหมาะสมกับแพ็คเกจด้วยเช่นกัน เพราะผู้ให้บริการมีการนำเสนอแพ็คเกจที่หลากหลาย และไม่ได้เป็นการบังคับโดยไม่มีทางเลือก เพราะผู้ใช้บริการยินดีที่จะสมัครแพ็คเกจที่ตนพอใจได้ตามความต้องการ และยอมรับถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขในการใช้งานแต่ละแพ็คเกจแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ความเห็นจากผู้ใช้ก็อยากจะให้มีการกำหนดเงื่อนไข Fair Usage Policy เป็นรายวัน แต่อย่าลืมว่า ในขณะนี้ 3G ที่เราใช้ ยังเป็น 3G ที่ผู้ให้บริการนำคลื่นความถี่เดิมมาให้บริการ คงต้องรอดูกันว่า การกำหนดเงื่อนไขในการจำหน่ายแพ็คเกจหลังการประมูลคลื่นความถี่ 2100MHz จะเป็นอย่างไรข้อมูล Fair Usage Policy จาก AIS dtac Truemove
***********************************************************************************************

วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Youtube เพิ่มฟีเจอร์เซ็นเซอร์ใบหน้าบุคคลในคลิปวีดิโอแบบอัตโนมัติ

         คนที่ชอบอัพโหลดคลิปบน Youtube คงรู้กันดีว่าทาง Youtube เองมีเครื่องมีสำหรับตัดแต่งหรือแก้ไขวีดิโออย่างง่ายๆ ผ่านหน้าเว็บไซต์ ซึ่งเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้เราไม่ต้องมีโปรแกรมแก้ไขวีดิโอบนเครื่องคอม ก็สามารถแก้ไขวีดิโอได้
ล่าสุด Youtube ได้เพิ่มความสามารถใหม่ให้กับเครื่องมือตกแต่งวีดิโออีกครับ นั่นคือฟีเจอร์สำหรับการเบลอหรือเซ็นเซอร์ใบหน้าของบุคคลที่อยู่ในวีดิโอครับ โดยเพียงเรากดปุ่มสั่งให้เบลอเพียงครั้งเดียวทาง Youtube ก็จะหาใบหน้าคนแล้วจัดการเบลอให้โดยอัตโนมัติครับ ซึ่งที่มาของฟีเจอร์นี้ก็เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบุคคลที่อยู่ในคลิปวีดิโอครับ สำหรับกรณีที่เป็นวีดิโอที่ถ่ายมาจากพื้นที่สาธารณะ





****************************************************************************